วันพฤหัสบดีที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

จุดอ่อนของคนไทย ๑๐ ประการ โดย วิกรม กรมดิษฐ์

สรุป จุดอ่อน ๑๐ ประการของคนไทย คือ 

๑. คนไทยรู้จักหน้าที่ตัวเองต่ำมาก 
โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม  เป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติล้าหลังไปเรื่อย ๆ 

๒. การศึกษายังไม่ทันสมัย  
คนไทยเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่าง ๆ ไม่กล้าแสดงออก  ขี้อายไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก เพื่อโอกาสที่ดีกว่า

๓. มองอนาคตไม่เป็น  
คนไทยมากกว่า ๗๐% ทำงานแบบไร้อนาคตทำแบบวันต่อวัน  แก้ปัญหาเฉพาะหน้า  น้อยคนนักที่จะทำงานแบบเป็นระบบ  เป็นขั้นเป็นตอน  มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน

๔. ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่  
ทำแบบผักชีโรยหน้าหรือทำด้วยความเกรงใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับสัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกดิ๊ตเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อย ๆ 

๕. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่  
ประชากรประมาณ ๖๐-๗๐% ที่อยู่ห่างไกลจะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชนซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม

๖. การบังคับกฏหมายไม่เข้มแข็ง  
และดำเนินการไม่ต่อเนื่อง  ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก  ปราบปรามไม่จริงจังการดำเนินการตามกฏหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อนไม่มีมาตรฐาน  ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว  ข้อนี้  กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง

๗. อิจฉาตาร้อน  
สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษเลี่ยงเป็นศรีธนญชัยยกย่องคนมีอำนาจ  มีเงินโดยไม่สนใจภูมิหลัง  โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ  เอาตัวรอดคนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้าย  ดีแต่พูด  มือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว

๘. เอ็นจีโอค้านลูกเดียว  
เอ็น จีโอ  บางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์เอ็นจิโอดี ๆ ก็มี  แต่บ้านเรามีน้อยบ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาลเพราะการค้านหัวชนฝาเหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน 

๙. ยังไม่พร้อมในเวทีโลก  
การสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลกของเรายังขาดทักษะและทีมเวิร์คทำให้สู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้

๑๐. เลี้ยงลูกไม่เป็น  
ปัจจุบัน  เด็กไทยขาดความอดทน  ไม่มีภูมิคุ้มกันเป็นขี้โรคทางจิตใจ  ไม่เข้มแข็งเพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน  ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง  ต่างกับชาติที่เจริญแล้วเขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเองขวนขวาย  แสวงหา  ค้นหาตัวเองและเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น