เมื่อฟังชื่อพระสูตรแล้ว อาจจะสงสัยว่า ธรรมที่เป็นไปเพื่อชัยชนะของใคร ของบุรุษหรือของสตรี หรือของคนทุกกลุ่ม ขอชี้แจงว่า ตามเนื้อหาของพระสูตรแล้ว กล่าวถึงชัยชนะของสตรีผู้เป็นภรรยา ถ้าปฏิบัติตามนี้แล้วจะเป็นผู้มีชัยชนะต่อสามีของตน หมายความว่า จะยึดจิตใจของสามีไว้ได้ตลอดไป สามีจะไม่มีวันนอกใจเด็ดขาด ภรรยาจะสามารถยึดจิตใจของสามีไว้ได้ ต้องประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ คือ
๑) จัดการงานดี
๒) สงเคราะห์คนข้างเคียงดี (คนข้างเคียงของตนด้วยของสามีด้วย)
๓) ปฏิบัติถูกใจสามี
๔) รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ ไม่ให้เสียหาย
ภรรยาที่ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้ จะเป็นผู้มีชัยชนะในโลกนี้ ส่วนชัยชนะในโลกหน้า พระพุทธองค์ตรัสว่า ต้องประกอบด้วยธรรม ๔ ประการเหล่านี้ คือ
๑) มีศรัทธา สัทธาสัมปทา
๒) มีศีล สีลสัมปทา
๓) มีการเสียสละแบ่งปัน จาคสัมปทา
๔) มีปัญญา ปัญญาสัมปทา
ในทางตรงกันข้าม ถ้าบุรุษผู้เป็นสามีปฏิบัติอย่างนี้ต่อภรรยาของตนก็จะสามารถยึดจิตใจของภรรยาไว้ได้ตลอดไปเช่นเดียวกัน คือ จัดแจงการงานดี สงเคราะห์คนสข้างเคียงดี (คนข้างเคียงของตนด้วยของภรรยาด้วย) ปฏิบัติถูกใจภรรยา และมอบทรัพย์ที่หามาได้ให้ภรรยารักษาไว้ ส่วนชัยชนะในโลกหน้ามีนัยเช่นเดียวกัน
พระสูตรนี้อยู่ในพระไตรปิฎก ฉบับ มหาจุฬาฯ เล่มที่ ๒๓ ข้อ ๔๙ หน้า ๑๗๕-๑๗๗.
๙. ปฐมอิธโลกิกสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นไปเพื่อชัยชนะในโลกนี้ สูตรที่ ๑
[๔๙] สมัยหนึ่ง
พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่ปราสาทของนางวิสาขา- มิคารมาตา
ในบุพพาราม เขตกรุงสาวัตถี ครั้งนั้น นางวิสาขามิคารมาตาเข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ฯลฯ แล้วนั่ง ณ ที่สมควร
พระผู้มีพระภาคจึงได้ตรัสดังนี้ว่า
“วิสาขา มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ
ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกนี้ ปรารภโลกนี้๑
ธรรม
๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
มาตุคามในโลกนี้
๑. จัดการงานดี ๒. สงเคราะห์คนข้างเคียง
๓. ปฏิบัติถูกใจสามี ๔. รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
มาตุคามผู้จัดการงานดี
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้เป็นคนขยัน ไม่เกียจคร้านในการงานภายในบ้านสามี คือ
การทอผ้าขนสัตว์ หรือผ้าฝ้าย ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบาย
ในการงานเหล่านั้น สามารถทำ สามารถจัดได้
มาตุคามผู้จัดการงานดี
เป็นอย่างนี้แล
มาตุคามผู้สงเคราะห์คนข้างเคียง
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้รู้จักการงานที่คนในบ้านสามี คือ ทาส คนใช้
หรือกรรมกรว่าทำแล้วหรือยังไม่ได้ทำ รู้อาการของคนเหล่านั้นที่เป็ไข้ว่าดีขึ้นหรือทรุดลง
และแบ่งปันของกิน ของใช้ให้ตามส่วนที่ควร
มาตุคามผู้สงเคราะห์คนข้างเคียง
เป็นอย่างนี้แล
มาตุคามปฏิบัติถูกใจสามี
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้ไม่ล่วงละเมิดสิ่งที่ไม่เป็นที่พอใจของสามี แม้เพราะเหตุแห่งชีวิต
มาตุคามปฏิบัติถูกใจสามี
เป็นอย่างนี้แล
มาตุคามรักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้รักษาคุ้มครองสิ่งที่สามีหามาได้ เป็นทรัพย์ ข้าว เงิน
หรือทองก็ตาม ไม่เป็นนักเลงการพนัน ไม่เป็นขโมย ไม่เป็นนักเลงสุรา
ไม่ผลาญทรัพย์สมบัติ
มาตุคามรักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
เป็นอย่างนี้แล
วิสาขา
มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกนี้
ปรารภโลกนี้
วิสาขา
มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกหน้า
ปรารภโลกหน้า
ธรรม
๔ ประการ อะไรบ้าง คือ
มาตุคามในโลกนี้
๑. ถึงพร้อมด้วยศรัทธา ๒. ถึงพร้อมด้วยศีล
๓. ถึงพร้อมด้วยจาคะ ๔. ถึงพร้อมด้วยปัญญา
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้เป็นผู้มีศรัทธา เชื่อปัญญาตรัสรู้ของตถาคตว่า “แม้เพราะเหตุนี้
พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองโดยชอบ
เพียบพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดี รู้แจ้งโลก
เป็นสารถีฝึกผู้ที่ควรฝึกได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
เป็นพระพุทธเจ้า เป็นพระผู้มีพระภาค”
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยศรัทธา
เป็นอย่างนี้แล
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้เป็นผู้เว้นขาดจากการฆ่าสัตว์ ฯลฯ
เว้นขาดจากการเสพของมึนเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นเหตุแห่งความประมาท
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยศีล
เป็นอย่างนี้แล
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้มีใจปราศจากความตระหนี่อันเป็นมลทิน มีจาคะอันสละแล้ว มีฝ่ามือชุ่ม
ยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการแจกทาน อยู่ครองเรือน
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยจาคะ
เป็นอย่างนี้แล
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา
เป็นอย่างไร
คือ
มาตุคามในโลกนี้เป็นผู้มีปัญญา คือ ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาเห็นทั้งความเกิดและความดับอันเป็นอริยะ
ชำแรกกิเลสให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ
มาตุคามผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา
เป็นอย่างนี้แล
วิสาขา
มาตุคามประกอบด้วยธรรม ๔ ประการนี้แล ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อชัยชนะในโลกหน้า
ปรารภโลกหน้า”
ภรรยาเป็นผู้จัดการงานดี
สงเคราะห์คนข้างเคียง
ปฏิบัติถูกใจสามี
รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้
เป็นผู้มีศรัทธา
ถึงพร้อมด้วยศีล
รู้ความประสงค์ของผู้ขอ๑
ปราศจากความตระหนี่
ชำระทางแห่งประโยชน์ที่มีอยู่ในชาติหน้าอยู่เป็นนิตย์
ธรรม ๘
ประการดังกล่าวมานี้ มีอยู่แก่สตรีใด
สตรีนั้น นักปราชญ์ทั้งหลายเรียกว่า
“ผู้มีศีล ตั้งอยู่ในธรรม
กล่าวคำสัตย์”
อุบาสิกาเช่นนั้นผู้ถึงพร้อมด้วยอาการ
๑๖ อย่าง
ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ
เป็นผู้มีศีล
ย่อมเกิดในเทวโลกชื่อว่ามนาปกายิกะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น