วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

พิธีศพแบบธิเบต

นกแร้ง.. ผู้เป็นนักเก็บกวาดของธรรมชาติ สัญลักษณ์ของความตายที่คนกลัว


เส้นทางสู่สถานที่ทำพิธี


แบกศพมาด้วย





จุดไฟส่งสัญญาณ เรียกนกแร้ง




เมื่อแร้งมาแล้ว ก็ถึงเวลา เอาศพที่แบกมาลงจากรถ


ร่างที่เคยคิดว่าเป็นญาติอันเป็นที่รักของเรา บัดนี้จักคืนสู่ธรรมชาติไป
ที่เห็นเฉพาะหน้าเป็นเพียงเนื้อก้อนหนึ่ง ที่จะได้บริจาคทานเป็นครั้งสุดท้ายของชีวิต


แม้ตัวเราเอง.. หมดลมแล้วก็ต้องเป็นอย่างนี้เหมือนกัน


แร้งได้อิ่ม คนตายได้บุญ  ญาติผู้ตายได้ธรรมสังเวช






 
 
เจอกันแค่ระยะเวลาหนึ่งของชีวิตสั้นๆ สุดท้ายต้องคืนเธอให้ธรรมชาติไป... ฉันเองก็จะต้องตามไปในไม่ช้า...ชีวิตนี้สั้นนัก
ที่เคยยึดถือ ว่านั่นเป็นเรา นี่เป็นของเรา สุดท้าย..มีอะไรเป็นของเราจริงๆหรือ...








ตอนมีชีวิตอยู่ ไม่ควรโลภเลย..เพราะถึงวันสุดท้าย...แม้ร่างกายที่รักที่สุด ยังเอาติดตัวไปไม่ได้เลย...
ตอนมีชีวิตอยู่ จะโกรธกันไปทำไม..สุดท้าย..ก็ไม่มีใครเก่งเกินพญามัจจุราชได้ เราต่างก็เป็นเพียงเพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกัน ต่างกันที่เร็วหรือช้า...


ตอนมีชีวิตอยู่ จะลุ่มหลงสิ่งใดนักหนา... เพราะท้ายที่สุด ทุกสิ่งที่มีอยู่ จะต้องสลายไปหมด..ไม่ว่าเราจะยึดถือ หรือผูกพันกับมันเพียงใดก็ตาม


เหลือแต่กรรมดีและกรรมชั่วเท่านั้น..ที่จะติดตามเราไป... ที่จะตัดสินว่า..เราเหมาะจะไปเกิดในภพภูมิใด

 
ตอนมีชีวิตอยู่ ขอท่านทั้งหลาย ตั้งอยู่ในความไม่ประมาทเถิด...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น