ภาพที่ชาวนาเกี่ยวข้าวหนีน้ำแก่ง (น้ำแก่งเป็นภาษาพื้นบ้านอีสาน)
ภาพที่เห็นคือที่นาของพ่อถนอม แม่สมดี ยุบลพันธ์
จากคำบอกเล่าของพ่อใหญ่สัมฤทธิ์ คงแถลง (พ่อใหญ่เผิ่ง) บอกว่าตั้งแต่เกิดมาพึ่งจะเห็นครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่น้ำท่วมในลักษณะนี้ คือน้ำเอ่อล้นมาจากแม่น้ำชี เกิดจากที่เจ้าหน้าที่ปล่อยน้ำจากพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ ลงแม่น้ำมูลและน้ำชี ทำให้น้ำเอ่อล้นขึ้นมาท่วมพื้นที่ตอนเหนือ
ทุกปีที่ผ่านมาน้ำจะท่วมมาจากทางด้านเหนือคือจากเขื่อนลำปาว ไหลบ่าลงมา ล้นออกจากลำน้ำปาวเข้าท่วมที่นาของชาวบ้าน ลักษณะอย่างนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา
น้ำขึ้นจนถึงคอ มองในภาพไกลออกไป จะเห็นชาวนาหลายเจ้า กำลังเกี่ยวข้าว เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ชะตาชีวิตของชาวนาขึ้นอยู่กับธรรมชาติแท้ ๆ เลือกไม่ได้เหมือนเจ้าของโรงสี ชื้นมากเขาก็กดราคาลง ขนไปถึงโรงสีแล้วจะไม่ขายก็ไม่ได้เพราะเสียค่ารถขนไปแล้ว จะขอต่อรองราคาก็ไม่ได้ ต้องจำยอมทุกอย่าง เข้าตำราที่ว่า ผีตกป่าช้าแล้วยังไงก็ต้องเผา หรือจะว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็กก็ไม่ผิด
เมื่อเกี่ยวได้แล้วก็เอาใส่เรือขึ้นมาตากบนบก เป็นภาพที่น่าสลดใจมาก เป็นความทุกข์ความเดือดร้อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของชาวนา
จากคำบอกเล่าของพ่อใหญ่สัมฤทธิ์ คงแถลง (พ่อใหญ่เผิ่ง) บอกว่าตั้งแต่เกิดมาพึ่งจะเห็นครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่น้ำท่วมในลักษณะนี้ คือน้ำเอ่อล้นมาจากแม่น้ำชี เกิดจากที่เจ้าหน้าที่ปล่อยน้ำจากพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ ลงแม่น้ำมูลและน้ำชี ทำให้น้ำเอ่อล้นขึ้นมาท่วมพื้นที่ตอนเหนือ
ทุกปีที่ผ่านมาน้ำจะท่วมมาจากทางด้านเหนือคือจากเขื่อนลำปาว ไหลบ่าลงมา ล้นออกจากลำน้ำปาวเข้าท่วมที่นาของชาวบ้าน ลักษณะอย่างนี้ถือเป็นเรื่องธรรมดา
น้ำขึ้นจนถึงคอ มองในภาพไกลออกไป จะเห็นชาวนาหลายเจ้า กำลังเกี่ยวข้าว เห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ ชะตาชีวิตของชาวนาขึ้นอยู่กับธรรมชาติแท้ ๆ เลือกไม่ได้เหมือนเจ้าของโรงสี ชื้นมากเขาก็กดราคาลง ขนไปถึงโรงสีแล้วจะไม่ขายก็ไม่ได้เพราะเสียค่ารถขนไปแล้ว จะขอต่อรองราคาก็ไม่ได้ ต้องจำยอมทุกอย่าง เข้าตำราที่ว่า ผีตกป่าช้าแล้วยังไงก็ต้องเผา หรือจะว่า ปลาใหญ่กินปลาเล็กก็ไม่ผิด
เมื่อเกี่ยวได้แล้วก็เอาใส่เรือขึ้นมาตากบนบก เป็นภาพที่น่าสลดใจมาก เป็นความทุกข์ความเดือดร้อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของชาวนา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น