ในพระสูตรนี้พระพุทธองค์ตรัสว่า บุคคล ๔ จำพวก คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้ฉลาดเฉียบแหลม มีการศึกษาดี แกล้วกล้า เป็นพหูสูต ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ย่อมทำหมู่ให้งาม
จากพระสูตรนี้สามารถวิเคราะห์ได้ว่า บุคคล ผู้ฉลาด แต่ไม่ได้รับการศึกษา ก็อาจจะไม่เป็นที่ยอมรับนับถือจากหมู่คณะก็ได้ หรือ ผู้ฉลาดมีปัญญาดี มีการศึกษาดี แต่ไม่ประพฤติดี ไม่ปฏิบัติชอบก็อาจจะไม่ได้รับความเคารพนับถือจากหมู่คณะก็ได้
จากเนื้อความในพระสูตรนี้สามารถสรุปได้ว่า บุคคลผู้ที่จะได้รับความเคารพนับถือจากหมู่คณะต้องเป็นคนฉลาดด้วย มีการศึกษาดีด้วย และที่สำคัญต้องประพฤติดีปฏิบัติชอบตามทำนองคลองธรรมด้วย
พระสูตรนี้ อยู่ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
๗.
โสภณสูตร
ว่าด้วยบุคคลผู้ทำหมู่ให้งาม
[๗]
พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ ผู้เฉียบแหลม
ได้รับคำแนะนำดี แกล้วกล้า เป็นพหูสูต ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ย่อมทำหมู่ให้งาม
บุคคล ๔
จำพวกไหนบ้าง คือ
ในธรรมวินัยนี้
๑.ภิกษุผู้เฉียบแหลม
ได้รับคำแนะนำดี แกล้วกล้า เป็นพหูสูต ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ย่อมทำหมู่ให้งาม
๒.ภิกษุณี ฯลฯ
๓.อุบาสก ฯลฯ
๔.อุบาสิกาผู้เฉียบแหลม
ได้รับคำแนะนำดี แกล้วกล้า เป็นพหูสูต ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
ย่อมทำหมู่ให้งาม
ภิกษุทั้งหลาย
บุคคล ๔ จำพวกนี้แลผู้เฉียบแหลม ได้รับคำแนะนำดี แกล้วกล้า เป็นพหูสูต ทรงธรรม
ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ย่อมทำหมู่ให้งาม
บุคคลผู้เฉียบแหลม
แกล้วกล้า เป็นพหูสูต
ทรงธรรม
และปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
เรียกว่าผู้ทำหมู่ให้งาม
ภิกษุผู้สมบูรณ์ด้วยศีล
ภิกษุณีผู้เป็นพหูสูต
อุบาสกผู้มีศรัทธา
และอุบาสิกาผู้มีศรัทธา๑
ชนเหล่านี้แลย่อมทำหมู่ให้งาม
ชนเหล่านี้แลชื่อว่าสังฆโสภณ
โสภณสูตรที่
๗ จบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น